เราจะสอนเด็กของพวกเรายังไง?

717311OEwDL

วันนี้ผมนอนเอนกายนั่งเล่น facebook ตามภาษาของวันเสาร์ที่ไม่มีงานรัดตัวมากเท่าไหร่ ในขณะที่นั่งเล่นไปก็เห็นหลายๆคนเปลี่ยนรูป profile ใน facebook เป็นรูปตัวเองตอนเด็กๆ หลายคนรูปตอนเด็กก็น่ารักจนรู้สึกว่า “ไม่น่าโตมาเลยนะมึงอะ” หลายคนก็เขียนความประทับใจในวัยเด็กผ่านทาง status

ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้เอ๊ะใจอะไรว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนรูป profile แต่พอเห็นหลายคนเข้าเริ่มนึกได้ว่า อ้าวเวร!!! วันนี้มันวันเด็กนี่หว่า!!!! มิน่าเขาถึงมาโชว์รูปตอนเด็กกันเยอะเลย ผมรู้สึกในตอนนั้นว่า “นี่กูแก่มาจนลืมวันเด็กเลยหรอเนี่ย 555”

พอลองมองย้อนกลับไปในวัยเด็กของเรา ก็ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวต่างๆในวัยเด็กของตัวเอง สุขบ้างทุกข์บ้าง สนุกบ้างร้องไห้บ้าง เบื่อบ้างตื่นเต้นบ้าง และก็ทำให้ผมนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา

หนังสือเล่มนี้ผมไม่ได้ซื้อเองแต่ว่า มีเพื่อนคนนึงซื้อมาแล้วมันก็หยิบให้ผมแล้วบอกว่า “หนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับมึง มึงอ่านยัง?” ผมตอบไปว่า “กูไม่เคยเห็นมาก่อนเลยหวะ” มันเลยบอกว่า “งั้นมึงเอาไปอ่าน อ่านเสร็จแล้วค่อยเอามาคืน” จนวันนี้อ่านจบรอบที่สอง ถามว่าผมเอาไปคืนมันหรือยัง แน่นอนครับยังไม่คืน 5555

หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “How Children Succeed” ของ Paul Tough เป็นหนังสือที่ต้องบอกตรงๆว่า เป็นหนังสือที่ผมชอบอีกเล่มนึงทีเดียว

ข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือ คนแต่งเขาพยายามรวบรวมงานวิจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษาและลงพื้นที่เพื่อทำความรู้จักกับเด็กที่ได้ชื่อว่าด้อยโอกาสทางการศึกษา และทำการรวบรวมเพื่อที่จะหาให้ได้ว่า อะไรคือปัจจัยที่จะทำให้เด็กคนนึงประสบความสำเร็จและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมที่ดี และไม่ก่อให้เกิดปัญหากับสังคม

โดยในตอนต้นเรื่องของหนังสือเล่มนี้ ผู้แต่งพยายามพูดถึงเรื่อง IQ ซึ่งเป็นสิ่งที่ในอเมริกาให้ความสำคัญอยู่ในยุคหนึ่ง โดยมีงานวิจัยสนับสนุนมากมายว่า IQ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ

ถ้ายิ่งมี IQ สูงความรู้ความสามารถเยอะแล้วละก็ ก็มีโอกาสที่เด็กคนนั้นจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต หลายๆองค์กรก็เข้าไปปรับเพิ่มความรู้ ความสามารถของเด็กด้อยโอกาสทางด้านนี้ เช่น Teach for America ที่ได้นำเอานักศึกษามหาวิทยาลัยในสาขาต่างๆเข้าไปช่วยสอนให้กับเด็กด้อยโอกาสเพื่อที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับเด็กด้อยโอกาส

แต่ความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดจริงๆหรอที่จะทำให้เด็กประสบความสำเร็จ?

นี่เป็นคำถามที่อยู่ในหัวของ Paul หลายๆกรณีเราพบว่าเด็กที่ได้รับการดูแลอย่างดีจนมีความรู้มากจนสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยได้ กลับไม่สามารถเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ นั่นเป็นคำถามที่น่าสงสัยว่า คนที่มี IQ มากพอที่จะสอบเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย ทำไมถึงไม่สามารถเรียนจบได้

และทำให้ Paul คิดว่าจะต้องมีสิ่งอื่นๆที่มีผลในการจะทำให้เด็กคนนึงประสบหรือไม่ประสบความสำเร็จอีกหรือไม่?

ซึ่งจากการเข้าไปศึกษาในโรงเรียนต่างๆและเข้าไปคลุกคลีกับเด็กๆที่ด้อยโอกาสแต่ละคน ทำให้ Paul ค้นพบบางอย่างว่า จริงๆแล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เด็กประสบความสำเร็จนั้น

ไม่ใช่การทำให้เด็กมีความรู้มากขึ้น แต่เป็นการที่ปลูกฝัง “คุณลักษณะ” ต่างๆให้กับเด็ก ซึ่งได้แก่ สำนึกผิดชอบชั่วดี ความมุมานะ ความหยุ่นตัว ความไม่ย่อท้อ และการมองโลกในแง่ดี

แล้วจะปลูกฝังเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร การจะปลูกฝังให้เกิดคุณลักษณะเหล่านี้ได้ เราในฐานะผู้ใหญ่จะต้องยอมให้เด็กล้มในก้าวเดินแรกของเขาบ้าง ให้เขารู้จักรับมือกับความล้มเหลวและให้ประสบการณ์สอนเขาให้สร้าง คุณลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นกับตัวเอง

ดังนั้นสิ่งที่เด็กต้องการที่สุด คือ “ความยากลำบากอันสมวัย” และโอกาสที่จะล้มแล้วลุกขึ้นยืนใหม่ได้ด้วยตัวเอง ส่วนผู้ใหญ่มีหน้าที่ในการคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเขาอยู่ห่างๆเท่านั้น

ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ผู้แต่งกลับมาย้ำในเรื่องการพัฒนาของเด็กยากจน โดยกล่าวว่าความยากจนจะถูกขจัดไปได้นั้นก็จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน แต่อย่างไรก็ตามตัวเด็กเองก็ต้องพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาและต้องพยายามมากกว่าเด็กในฐานะอื่นๆ อีกเป็นเท่าตัว

ซึ่งแม้ว่ามันจะยากแต่ความแข็งแกร่งและไม่ย่อท้อนี่แหละจะเป็นตัวผลักดันให้เขาสามารถยกระดับตัวเองออกจากความยากจนได้

ส่วนตัวคิดว่าจริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เหมาะกับแค่นักพัฒนาการศึกษา หรือ ครูอาจารย์ เท่านั้น แต่มันเหมาะกับผู้ใหญ่ทุกคนที่จะต้องคอยดูแลและเลี้ยงเด็กๆ

และแม้ว่าในหนังสือเล่มนี้จะพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของเด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆแล้วไม่ว่าครอบครัวของเด็กๆจะมีฐานะเป็นยังไง

จุดหลักสำคัญในการผลักดันให้เด็กประสบความสำเร็จก็คือ ความแข็งแกร่งของลักษณะนิสัยในตัวเด็กคนนั้นที่ถูกปลูกฝังมา ไม่ใช่แค่เพียงการมีความรู้เท่านั้น การมีความรู้เป็นเพียงผลที่เกิดจากลักษณะนิสัยที่แข็งแกร่งของเด็กคนนั้น

ไม่มีคนไหนหรอกที่เกิดมาแล้วเก่งเลยโดยที่ไม่ได้ผ่านการทำงานหนัก
ไม่มีคนไหนหรอกที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามและการต่อต่อสู้
และไม่มีคนไหนหรอกที่จะมีความสุขและดำเนินชีวิตในโลกนี้ได้โดยขาดการมองโลกในแง่ดี

แล้วตอนนี้ลูกๆหลานๆคุณ คุณเลี้ยงเขายังไง…….

Success is not all about intelligence but it is also about diligence.

ด้วยศรัทธาแห่งความพยายาม

—- เนดะ

Reference:
Tough, P. (2012). How Children Succeed. Boston, MA: Houghton Mifflin Harcourt .

Leave a comment